ทำความรู้จัก “ เขา ” ให้มากยิ่งขึ้น

Thaipolitic พาทุกคนไปทำความรู้จักกับ “ ผู้ชายคนนี้ ” เขาคือใคร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร มาติดตามกันได้ที่นี่เลย

คุณพิธา เป็นหัวหน้า “ก้าวไกล” ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2562 และยังเป็นนักธุรกิจและนักการเมืองชาวไทยที่มีผลงานที่โดดเด่นอีกด้วย

คุณ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2523 ปัจจุบันมีอายุ 43 ปี ( ณ ปี พ.ศ. 2566 ) คุณทิม พิธา เป็นบุตรชายคนโตของ นายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ ์ กับ นางลิลฎา ลิ้มเจริญรัตน์ นอกจากนี้ บุคคลภายในครอบครัวยังได้มีบทบาทในการบริหารงานบ้านเมืองอีกหลายท่าน อาทิเช่น คุณพ่อที่เป็น อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคุณลุงเป็น อดีตเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือทิม หนุ่มหล่อที่มีชื่อเสียงในวงการนักธุรกิจ ได้เปลี่ยนทิศทางและมุ่งหน้าเข้าสู่ด้านการเมือง เขามีทักษะและความสามารถที่สูงจนได้รับทุนการศึกษาในฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ในตอนเด็กๆ เขามีประสบการณ์ที่ไม่ดีเลยที่เรียกว่าเกเร แต่พ่อของเขามีความเข้มแข็งและพอใจกับความพยายามของลูกชายจึงส่งเขาไปเรียนต่างประเทศ

ทิม พิธา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาบริหารธุรกิจ การเงิน และการธนาคาร ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่ฮาร์วาร์ด ในสาขาการเมืองและการปกครอง โดยได้รับทุนการศึกษา International Student จาก Kennedy School of Government ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในสหรัฐอเมริกา และได้รับปริญญาโทอีกครั้งจากคณะบริหารธุรกิจ Sloan ของ Massachusetts Institute of Technology (M.I.T.) ในสหรัฐอเมริกา

“ในชีวิตส่วนตัวของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เคยเป็นคู่สมรสกับนักแสดงชื่อดัง “ต่าย” ชุติมา ทีปะนาถ ในปี 2555 หลังจากที่คบหากันเป็นเวลา 3 ปี เขาตัดสินใจที่จะแต่งงานและมีลูกสาวชื่อว่า พิพิม ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปัจจุบันอายุ 7 ขวบ อย่างไรก็ตามในปี 2561 เขาเลือกที่จะหย่าร้าง แม้ว่ามีเหตุการณ์ที่ทำให้ชื่อเสียของทั้งสองในอดีต แต่ปัจจุบัน ทั้งคู่เลือกสถานะพ่อแม่ที่ดีให้กับลูกสาว

กว่าจะมาเป็น นายกรัฐมนตรี ของประเทศไทย

พิธาเข้าสู่วงการเมืองในฐานะที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรีที่ประจำกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลัง หลังจากนั้นเขาได้สมัครเป็นสมาชิกของพรรคอนาคตใหม่ และลงสมัครเป็นผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อในลำดับที่ 4.

ภายหลังจากนั้นเขาได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกที่ลงรับเลือกตั้ง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ในพรรคอนาคตใหม่

ในการอภิปรายครั้งแรกในสภาผู้แทนราษฎร พิธาได้เสนอเรื่องนโยบายทางการเกษตรของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องปัญหากระดุม 5 เม็ด และได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน ผู้เข้าชม และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มีคำชมเชยจากพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ต่อมาในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรค และในวันที่ 8 มีนาคมเขาได้ย้ายไปเป็นสมาชิกของพรรคก้าวไกลร่วมกับอดีตสมาชิก พรรคอนาคตใหม่ อีก 54 คน โดย ทิม พิธา ได้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคนั่นเอง

ดูรายละเอียดผลการเลือกตั้ง ส.ส. ประเทศไทย 2566

นโยบาย พรรคก้าวไกล ที่น่าสนใจ

นโยบาย เกี่ยวกับสตรีและการคลอดบุตร

• สิทธิในการลาคลอดบุตร 180 วัน ซึ่งผู้ที่เป็นมารดาและบิดาสามารถแบ่งกันได้
• พร้อมรับของขวัญแรกเกิด 3,000 บาท
• เงินสนับสนุนเด็กเล็กเดือนละ 1,200 บาท
• พร้อมการสร้างศูนย์เลี้ยงเด็กให้ครอบคลุมและใกล้บ้านมากขึ้น นอกจากนี้ยัง เรียนฟรี พร้อมอาหารและรถรับส่ง
• การไม่เก็บภาษีผ้าอนามัย

นโยบาย พรรคก้าวไกล กระทรวงแรงงาน

• ผลักดันให้มีการปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นทุกปี โดยจะเริ่มต้นที่ 450 บาทต่อวัน และรัฐยังช่วยเงินสนับสนุนภาค SME ในช่วง 6 เดือนแรก
• ปรับสัญญาการจ้างงานให้เป็นธรรม และการทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
• กลุ่มแรงงานสามารถจัดตั้งสหภาพได้ ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับหลักการ ILO

นโยบาย เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชน

• เพิ่มสวัสดิการ ประกันสังคมถ้วนหน้า รับเงินชดเชยจากการเจ็บป่วย รวมไปถึงค่าเดินทางไปพบแพทย์
• สวัสดิการในการเรียนเสริมทักษะอาชีพ ฟรี ไม่มีจำกัด
• โครงการ บ้านตั้งตัว 350,000 หลัง
• พัฒนาให้ น้ำประปา สามารถดื่มได้ในทุกพื้นที่
• พัฒนาระดับท้องถิ่น เพิ่มขนส่งสาธารณะ
• รับอินเทอร์เน็ตฟรี 1 GB/เดือน
• สวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ รับเงินสนับสนุน 3,000 บาทต่อเดือน
• สวัสดิการสำหรับผู้พิการ รับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาทต่อเดือน
• สวัสดิการค่าทำศพถ้วนหน้า 10,000 บาท

การันตี นโยบาย พรรคก้าวไกล มีเงินจ่าย ทำได้จริง นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังได้แถลงเปิดนโยบาย “การศึกษาไทยก้าวหน้า” ดังนี้

• เรียนฟรี อาหารฟรี มีรถรับส่ง
• ทุกโรงเรียนมีงบประมาณเพียงพอ
• โปร่งใส ปราศจากการทุจริต
• สภาเยาวชน มาจากการเลือกตั้ง เสนอกฎหมายไปที่สภาฯได้
• ลดการอัดเนื้อหาจำนวนมากสำหรับการเรียน
• ลดชั่วโมงในการเรียน และลดงานของคุณครูที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสอน
• ลดการบ้าน ลดการสอบ ลดกฎระเบียบและอำนาจนิยม
• มุ่งเน้นการเพิ่มและพัฒนาทักษะต่างๆ
• เพิ่มคุณภาพของสิ่งที่เรียนรู้